ในปัจจุบัน การขายสินค้าไม่ได้จำกัดแต่เพียงการขายที่หน้าร้านเท่านั้น การขายในช่องทางออนไลน์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ หรือรายเล็กเองก็เริ่มเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น จนเกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่ ซึ่งการแพ็กสินค้ากับการขายของออนไลน์เป็นของคู่กัน แล้วจะแพ็กยังไงให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย มาดูขั้นตอนการแพ็กสินค้ากัน ถ้าอยากมีลูกค้าประจำ และลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องห้ามพลาดบทความนี้!
การให้ความสำคัญกับการแพ็กสินค้าส่งผลต่อยอดขาย ความน่าเชื่อถือ และความประทับใจของลูกค้า เพราะหากกล่องที่บรรจุมีความน่าดึงดูด และออกแบบมาอย่างดี สามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างมาก การแพ็กสินค้าที่มีคุณภาพก็จะช่วย เสริมสร้างความไว้วางใจ ความมั่นใจในแบรนด์ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้เกิดการซื้อซ้ำ และการบอกต่อได้
อุปกรณ์แพ็กสินค้าที่ต้องมี ซึ่งเราต้องเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนการแพ็กจริง เพื่อเวลาที่ลูกค้าสั่งของ หรือมีออร์เดอร์ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สามารถแพ็กของได้เลยทันที ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแพ็กของส่วนใหญ่ มีดังต่อไปนี้
การแพ็กสินค้าต้องมีความใส่ใจ ไม่ควรมองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย เพราะการแพ็กสินค้าที่ดีต้องมีวิธีการแบบมืออาชีพ ซึ่งเราจะมาแนะนำกันในหัวข้อนี้
การเลือกกล่องให้พอดีกับขนาดสินค้าก็มีความสำคัญ เพราะหากกล่องใหญ่เกินไป สินค้าก็จะกลิ้งไปกลิ้งมาภายในกล่อง ทำให้อาจแตก หรือเสียหายได้ หากเป็นสินค้าขนาดเล็กที่ไม่แตกหัก ก็อาจใช้เป็นซองใส่พัสดุแทนได้
การห่อบับเบิ้ลกันกระแทก เป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างอยู่ในขั้นตอนขนส่งสินค้า เช่น การตก การกระแทก เป็นต้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีความเปราะบาง และสามารถแตกหักได้ง่าย
สามารถใช้โฟม ถุงลม หรือกระดาษฝอย ในการอุดช่องว่าง เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้ากลิ้งไปมาภายในกล่อง จนอาจเกิดความเสียหายได้เช่นกัน
อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการแพ็กสินค้าก็คือ การติดเทปเพื่อปิดกล่องให้แน่นหนา โดยควรเลือกเทปที่มีวัสดุเหนียวแน่น มีคุณภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าหลุด หรือร่วงออกมาจากกล่องจนได้รับความเสียหาย และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สินค้าสูญหายระหว่างการขนส่งอีกด้วย
การเขียนหรือพิมพ์ใบจ่าหน้าพัสดุ ต้องตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ให้ครบถ้วน ถูกต้อง ทั้งของผู้ส่งและผู้รับ ไม่เช่นนั้นขนส่งอาจจะส่งพัสดุผิดบ้าน หรือส่งไปไม่ถึง จนต้องตีกลับมา ทำให้ต้องเสียทั้งเวลาส่งของใหม่ แถมเสียค่าส่งอีกรอบด้วย
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายในการแพ็กสินค้าที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขายสินค้าออนไลน์ ที่ใครหลายคนไม่ได้ทำ เพราะอาจเห็นว่าไม่สำคัญนั่นก็คือ การอัดวิดีโอตอนแพ็กของส่งให้ลูกค้า เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราได้ส่งสินค้าครบถ้วน ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือ ไว้ใจ และมีความมั่นใจมากขึ้น
ปัจจุบันการแข่งขันในการขายของทางออนไลน์ดุเดือดขึ้นทุกวัน เจ้าของธุรกิจจึงต้องมีกลยุทธ์การแพ็กสินค้าดีๆ ไว้เพื่อมัดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าซ้ำ ดังนี้
การมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยมัดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้ เพราะในทางหลักจิตวิทยา ของแถมเท่ากับของรางวัล หากซื้ออีกก็จะได้รางวัลอีก ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้านั่นเอง เช่น สินค้าทดลองที่กำลังจะออกใหม่ สินค้าขนาดที่เล็กกว่าที่ลูกค้าซื้อไป สินค้าที่อยู่ในกลุ่มประเภทเดียวกัน หรือบางร้านอาจจะแถมเป็นคูปองส่วนลด หรือเงินสดให้ด้วยก็มีอยู่เช่นกัน
อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการแพ็กสินค้าให้น่าจดจำ และเพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำของลูกค้าได้นั้น คือการเลือกใช้กล่องหรือเทปที่มีสีสัน ลวดลายน่ารัก เป็นเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มความดึงดูด และน่าสนใจ หากมีโลโก้ของสินค้าหรือแบรนด์ ก็จะช่วยสร้างภาพจำให้กับลูกค้าได้ และทำให้สินค้าดูมีมูลค่าขึ้น เพราะมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และไม่เหมือนใครนั่นเอง
กลยุทธ์สุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้ของการแพ็กสินค้าที่ดีก็คือ การติดสติกเกอร์ “ระวังแตก” สำหรับสินค้าที่มีความเปราะบาง สามารถแตกหักได้ง่าย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับขั้นตอนการจัดส่ง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็นถึงความใส่ใจของเรา
นอกจากการแพ็กสินค้าที่ดีแล้ว การติดตามการจัดส่งของลูกค้าหลังจากที่จัดส่งไปแล้วนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานะและที่อยู่ของพัสดุ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การชอปปิงโดยรวมของลูกค้า
นอกจากนั้นยังช่วยให้ธุรกิจสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือความล่าช้าในการจัดส่งได้ อำนวยความสะดวกในการปรับปรุงด้านลอจิสติกส์ และการบริการลูกค้า ช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทันทีและลดความไม่พอใจ ที่สำคัญจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และลดความเสี่ยงของข้อพิพาท หรือการสูญหายของพัสดุ
เคยไหมกับปัญหาออร์เดอร์เยอะ แพ็กไม่ไหว มีเวลาไม่พอในการแพ็กสินค้า โดยเฉพาะช่วงแคมเปญออนไลน์ หรือ Double Day ทำให้ส่งสินค้าไม่ทัน ลูกค้าได้รับสินค้าล่าช้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้โดยการหาตัวช่วยอย่าง YAS ที่รับแพ็กสินค้า จัดการสต๊อกสินค้า จัดการออเดอร์ บริการจัดส่ง และกระจายสินค้า ด้วยช่องทางการจัดส่งที่หลากหลาย วางแผนเส้นทางเดินรถที่ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ิอีกทั้งสามารถเลือกรูปแบบการให้บริการที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจได้
การใช้บริการบริษัทรับแพ็กสินค้ามีข้อดีกว่าการแพ็กสินค้าด้วยตัวเองในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดเวลาอันมีค่า การส่งสินค้าได้มาตรฐาน มีคุณภาพ มีความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการให้บริษัทรับแพ็กสินค้าแทนเรา อย่าง YAS ที่มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีบริการที่ดี ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของธุรกิจและลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการแพ็กสินค้า เพราะจะทำให้ธุรกิจและสินค้าของคุณมีความน่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น การมีทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการแพ็กสินค้า เช่น ใช้กล่องและเทปที่มีความสวยงาม มีของแถมให้ เป็นต้น ช่วยดึงดูดความสนใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น และการใช้บริการบริษัทรับแพ็กสินค้าจาก YAS ดีกว่าการแพ็กสินค้าเองในหลายๆ ด้าน เช่น มีความสะดวกรวดเร็ว มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ มีการรับประกัน มีการจัดการที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีระบบบริหารจัดการ ที่รองรับทุกการเชื่อมต่อ และระบบจัดการหลังบ้าน ด้วยทีมงานมืออาชีพ ซึ่งสิ่งเหล้านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และส่งผลให้ธุรกิจเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง