Key Takeaway
FEFO คือวิธีการจัดสต๊อกสินค้าที่เน้นหลักการว่า “ของที่ใกล้หมดอายุก่อน จะต้องถูกนำออกไปก่อน” วิธีนี้เหมาะสำหรับการจัดการสินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด ช่วยลดการสูญเสียสินค้าเนื่องจากหมดอายุ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารคลังสินค้า ในบทความนี้จะอธิบายรายละเอียด รวมถึงขั้นตอนในการใช้งาน ประโยชน์ ข้อจำกัด และการเปรียบเทียบความต่างระหว่าง FEFO, FIFO และ LIFO ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจการเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสินค้ามากที่สุด ติดตามได้ในบทความนี้
FEFO ย่อมาจาก First Expire First Out คือระบบจัดการสต๊อกที่เน้นความสำคัญของวันหมดอายุของสินค้าเป็นหลัก เป็นการจัดการสต๊อกที่ออกแบบมาเพื่อลดปริมาณสินค้าที่อาจเสียหายเนื่องจากหมดอายุ โดยสินค้าที่มีวันหมดอายุก่อนจะถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่หยิบง่ายที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้ก่อนสินค้าอื่นๆ
ระบบนี้เหมาะสำหรับสินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โดยช่วยลดปัญหาการเสียหายของสินค้าเนื่องจากหมดอายุ นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนที่เกิดจากการทิ้งสินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้า
FEFO เหมาะกับสินค้าประเภทที่มีความไวต่อเวลาและมีอายุการใช้งานจำกัด เช่น สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เคมี เป็นต้น ซึ่งต้องการการจัดการสต๊อกอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงจากการหมดอายุและรักษาคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในระดับสูงสุด
การสต๊อกสินค้าแบบ FEFO มีขั้นตอนและวิธีการที่แตกต่างจากการสต๊อกสินค้าทั่วไปอยู่บ้าง แม้ว่าขั้นตอนจะซับซ้อนและละเอียดมากกว่า แต่ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสต๊อกได้มากขึ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ระบบ FEFO นอกจากจะช่วยให้การจัดการสต๊อกสินค้าเป็นไปอย่างมีระบบแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณ ดังนี้
การนำระบบ FEFO มาใช้จะช่วยให้สินค้าที่มีวันหมดอายุใกล้เคียงที่สุดถูกนำออกมาใช้งานก่อน ซึ่งจะลดโอกาสที่สินค้าจะหมดอายุในคลังสินค้า ส่งผลให้ลดปริมาณสินค้าที่ต้องทิ้งไป และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการสูญเสียสินค้าโดยเปล่าประโยชน์
เมื่อสินค้าที่ใกล้หมดอายุถูกนำออกมาใช้ก่อน ลูกค้าจะได้รับสินค้าที่มีความสดใหม่และคุณภาพดีที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการซ้ำอีก
ระบบ FEFO ช่วยให้การหมุนเวียนสินค้าในคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เราทราบสถานะของสินค้าในคลังได้อย่างแม่นยำ และสามารถวางแผนการสั่งซื้อสินค้าใหม่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการขาดแคลนสินค้าหรือมีสินค้าคงคลังมากเกินไป
สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา การปฏิบัติตามหลักการ FEFO มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการบริโภคสินค้าที่หมดอายุ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด
มีหลายวิธีและเทคนิคในการจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม โดยวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่ LIFO, FIFO และ FEFO การเลือกเทคนิคใดเทคนิคหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
เช่น ประเภทของคลังสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่จัดเก็บ กระบวนการโลจิสติกส์ของแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดใน 3 วิธีนี้ จุดประสงค์คือเพื่อจัดระเบียบและควบคุมการไหลเข้าและไหลออกของผลิตภัณฑ์ที่จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว วิธี FEFO First Expire First Out คือการจัดระเบียบคลังสินค้าโดยให้ความสำคัญกับการออกผลิตภัณฑ์ที่มีวันหมดอายุเร็วที่สุดก่อน เป็นเทคนิคที่ช่วยหลีกเลี่ยงต้นทุนเพิ่มเติมที่เกิดจากสินค้าหมดอายุ และลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ที่จัดเก็บ
ส่วนวิธี FIFO หรือ First In First Out คล้ายกับวิธี FEFO แต่แทนที่จะใช้วันหมดอายุเป็นพื้นฐานในการออกผลิตภัณฑ์ตามลำดับความสำคัญ วิธี FIFO จะใช้วันที่ที่ผลิตภัณฑ์เข้าคลังสินค้าเป็นเกณฑ์ หากสินค้ามีวันหมดอายุเดียวกัน สินค้าที่จะออกก่อนจะเป็นสินค้าที่เข้ามาเป็นชิ้นแรก
อ่านเพิ่มเติม : FIFO (First in First Out) คืออะไร? ต่างจาก FEFO อย่างไร
สุดท้ายมีวิธี LIFO (Last In First Out) ที่ใช้เกณฑ์ตรงกันข้ามกับ FEFO สินค้าที่เข้าเป็นชิ้นสุดท้ายคือสินค้าที่ออกไปก่อน กล่าวคือ สินค้าที่เพิ่งมาถึงในคลังสินค้าจะมีสิทธิ์ออกก่อนสินค้าที่อยู่ในคลังสินค้านานกว่า วิธีนี้ใช้กับสินค้าที่ไม่มีวันหมดอายุและไม่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสินค้า เช่น วัสดุก่อสร้างที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นเวลานาน
แม้ว่าระบบ FEFO จะมีประโยชน์และข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา ดังนี้
FEFO คือระบบการจัดการสต๊อกที่ให้ความสำคัญกับวันหมดอายุของสินค้า โดยจะหยิบสินค้าที่ใกล้หมดอายุออกมาใช้ ระบบนี้เหมาะสำหรับสินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดการสต๊อกอีก 2 แบบที่นิยมใช้กัน คือ LIFO ระบบหยิบสินค้าที่เข้ามาทีหลังออกไปก่อน เหมาะกับสินค้าที่มีราคาเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือสินค้าที่ไม่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา และระบบ FIFO ที่หยิบสินค้าที่เข้ามาก่อนออกไปก่อน เหมาะกับสินค้าส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการรักษามูลค่า ซึ่ง FEFO แตกต่างจาก FIFO และ LIFO ตรงที่ให้ความสำคัญกับวันหมดอายุของสินค้าเป็นหลัก
หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจัดการระบบสต๊อกสินค้า ลองใช้บริการกับ YAS ผู้ให้บริการระบบด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าที่มีประสบการณ์ เราสามารถออกแบบระบบการจัดการสต๊อกที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นระบบ FEFO หรือ FIFO เพื่อให้คุณบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ