Key Takeaway
ในประเทศไทย แนวโน้มของธุรกิจโลจิสติกส์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง การใช้ระบบอัตโนมัติ และการเพิ่มความสามารถในการติดตามและจัดการสินค้าทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยมีแนวโน้มที่ดีและเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการ บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโลจิสติกส์ว่าคืออะไร และมีความสำคัญกับธุรกิจต่างๆ อย่างไร รวมถึงการวิเคราะห์แนวโน้มทางธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ว่าจะเป็นอย่างไร
นิยามคร่าวๆ ของโลจิสติกส์ คือการจัดการและการประสานงานในกระบวนการขนส่งสินค้า สิ่งของ หรือทรัพยากรจากสถานที่หนึ่งไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนด โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น การขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ หากพูดแบบเจาะลึก โลจิสติกส์ คือ การดำเนินงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อ การจัดเก็บสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง การบรรจุสินค้า และการขนส่งสินค้าไปยังมือผู้รับอย่างปลอดภัย
ทำให้โลจิสติกส์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจ และลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเสียโอกาสทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นและทำให้สามารถวางแผนและจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบหลักที่สำคัญของระบบโลจิสติกส์ คือการขนส่งสินค้า แต่ในความเป็นจริง โลจิสติกส์มีองค์ประกอบที่สำคัญหลายด้านเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของชัพพลายเชน (Supply chain) หรือห่วงโซ่อุปทานได้อย่างเต็มที่ โดยโลจิสติกส์และชัพพลายเชนมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
การจัดการสินค้าคงคลัง คือการดูแล วางแผน และจัดการสินค้าคงคลัง ตั้งแต่การจัดซื้อสินค้า การจัดเก็บ จนถึงการส่งออก โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมปริมาณสินค้าที่มีอยู่ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งช่วยลดภาระการจัดเก็บสินค้าและต้นทุนในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการสินค้าคงคลังมีความสำคัญต่อระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างมาก เพราะช่วยให้ทราบว่ามีสินค้าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไร และเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าหรือไม่ ซึ่งทำให้สามารถผลิตสินค้า จัดซื้อ หรือสต๊อกสินค้าได้อย่างเหมาะสม และส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ
การจัดการคลังสินค้า คือการจัดระเบียบสินค้าภายในคลังสินค้าให้เป็นระเบียบ เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากที่สุด ซึ่งรวมถึงการกำหนดตำแหน่งการจัดเก็บสินค้า การดูแลระบบคลังสินค้า การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้า และการดูแลรักษาสินค้าและทรัพยากรภายในคลังสินค้า
การจัดการคลังสินค้าช่วยให้สามารถทราบตำแหน่งของสินค้าแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน เช็กสินค้าในระบบและคลังได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกัน
งานบรรจุภัณฑ์ในระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คือการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับสินค้า และช่วยเก็บรักษาคุณภาพของสินค้าเหล่านั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการเลือกวิธีการบรรจุ การทำป้ายฉลาก และการระบุรายละเอียดของสินค้าที่สำคัญตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ งานบรรจุภัณฑ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงและความเสียหายของสินค้าในการขนส่ง
งานขนส่งในระบบโลจิสติกส์ คือการขนส่งสินค้าหรือทรัพยากรจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค โดยรวมถึงการจัดรูปแบบการเดินรถ การจัดเส้นทาง และการเลือกรถให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ระบบงานเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า โดยใช้เวลาน้อยและต้นทุนน้อยที่สุดในการดำเนินงาน พร้อมทั้งต้องเป็นกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
หากมีการจัดการระบบโลจิสติกส์ที่ดี จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานทางธุรกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้ประโยชน์ของการจัดการโลจิสติกส์ยังมีความสำคัญต่อการดำเนินงานทางธุรกิจในหลายด้าน ดังนี้
ประโยชน์ของการจัดการโลจิสติกส์ช่วยให้ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ซึ่งเห็นได้จากการที่ระบบโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญในการจัดการคลังสินค้าต่างๆ ให้เป็นระบบ การจัดการสินค้าที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสมเพื่อลดจำนวนสินค้าคงคลังจากการผลิตมากเกินความจำเป็น พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเกี่ยวกับการเก็บสินค้า เช่น ค่าประกันสินค้า ค่าธรรมเนียมจัดเก็บ และค่าเสื่อมราคาของสินค้า นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่ง ต้นทุนเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษารถยนต์ได้อีกด้วย
ความพึงพอใจของลูกค้าและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำธุรกิจ เพราะหากลูกค้าเจอประสบการณ์เชิงลบ เช่น การได้รับสินค้าช้าและสินค้าอยู่ในสภาพเสียหาย สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจและทำให้ลูกค้าไม่อยากกลับมาใช้บริการ การจัดการโลจิสติกส์ จึงมีประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงาน ช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดี ตั้งแต่การสั่งซื้อตลอดจนการรับสินค้า เมื่อสินค้าส่งถึงลูกค้าอย่างรวดเร็ว ตรงเวลา และอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการต่อเนื่อง
ในธุรกิจที่มีการจัดการด้านโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สามารถลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้โดยยังคงประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด กล่าวคือประโยชน์ของการจัดการด้านโลจิสติกส์ ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถนำข้อมูลการจัดการด้านสินค้าและการขนส่งมาวิเคราะห์ วางแผนเพื่อปรับปรุงรูปแบบการทำงาน เช่น การปรับปรุงระบบการจัดการ และการจัดเก็บสินค้าภายในคลังสินค้า กำหนดเส้นทางการขนส่งให้เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมและบำรุงรักษา รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
คลังสินค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ เพราะทำหน้าที่จัดเก็บสินค้าและกระจายสินค้าไปยังจุดหมายต่างๆ หากธุรกิจนำประโยชน์ของการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ มาปรับใช้ ก็สามารถช่วยพัฒนาการจัดคลังสินค้าให้มีระเบียบและเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ เช่น การเพิ่มพื้นที่ในคลังสินค้าเพื่อรองรับปริมาณสินค้าได้มากขึ้น การจัดวางสินค้าแต่ละประเภทให้เป็นระบบ การตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้ง่ายขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาสินค้าหมดอายุ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างบาร์โค้ดเพื่อลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล
การส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างราบรื่น ตรงเวลา และมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะหากมีข้อผิดพลาดในการจัดส่ง เช่น การส่งช้า สินค้าได้รับความเสียหาย หรือของตกหล่น ลูกค้าจะสูญเสียความมั่นใจและอาจไม่ใช้บริการอีก ดังนั้นประโยชน์ของการจัดการเกี่ยวกับโลจิสติกส์จึงช่วยให้ธุรกิจจัดการระบบขนส่งได้อย่างราบรื่น มีขั้นตอนในการจัดส่งที่ชัดเจน สามารถติดตามการทำงานได้อย่างเรียลไทม์ และส่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้ตามกำหนดโดยไม่มีข้อผิดพลาดในการจัดส่ง
สำหรับการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในไทยในปี 2568 มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยผลักดันการขยายตัวในอุตสาหกรรมนี้ เช่น การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การลงทุนจากต่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศ
โดยคาดว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในไทยจะเติบโตประมาณ 5-8% ต่อปีในช่วงปี 2568 ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการขยายตัวของการค้าในภูมิภาคเอเชีย
การพัฒนานี้จะมาจากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การใช้นำปัญญาประดิษฐ์ (Al), IoT, และระบบอัตโนมัติ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ รวมถึงการให้บริการที่รองรับการค้าขายออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ในภาพรวมอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตอันใกล้
หากมองในภาพรวม ธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยยังคงมีความท้าทายในด้านอื่นๆ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน รวมถึงการส่งออกสินค้าและนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้น ซึี่งอาจกระทบต่อต้นทุน เช่น น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกมีมาตรการปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อลดปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง
อย่างไรก็ตามธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของไทยในอนาคตมีแนวโน้มในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งสามารถเปิดโอกาสในการขยายตลาดได้มากขึ้น โดยธุรกิจจะปรับตัวเข้าสู่รูปแบบร้านค้าออนไลน์มากขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยวางแผนและจัดการการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน มีระบบคลังสินค้าอัตโนมัติในการรับสินค้า การจัดเก็บ การเคลื่อนย้ายสินค้า การเตรียมสินค้าเพื่อรอจัดส่ง ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน รวมถึงการจัดส่งและการกระจายสินค้าด้วยคลังสินค้าในหลายพื้นที่ เพื่อลดระยะทางการขนส่งและส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน หากมีการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่เป็นระบบ รวมถึงการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว ตรงต่อเวลา และมีประสิทธิภาพ จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและประทับใจในบริการ นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายดาย การจัดการคลังสินค้าที่เป็นระบบสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท ช่วยให้ขยายตลาดได้มากขึ้น และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดย YAS เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าผ่านบริการ YAS Distribution & Logistics Service และการบริการด้านจัดการคลังสินค้า อย่าง LOGISTICS SERVICE PROVIDER ซึ่งช่วยให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนในการดำเนินงาน และสร้างโอกาสในการเพิ่มกำไร ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
โลจิสติกส์ คือ การบริการเกี่ยวกับธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงการวางแผน การดำเนินงาน การจัดซื้อ การจัดเก็บ การบริหารสินค้าคงคลัง และการจัดส่งสินค้าด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ เพื่อให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ระบบโลจิสติกส์ช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนได้ชัดเจน ควบคุมคลังสินค้าอย่างเป็นระบบ ลดการทำงานซ้ำซ้อนและการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น จึงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ
องค์ประกอบหลักของระบบโลจิสติกส์ คือ งานจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การบรรจุภัณฑ์ และระบบขนส่ง ที่เป็น 4 องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้มั่นคงและยั่งยืน
อย่างไรก็ตามธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของไทย ในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต จากการนำปัญญาประดิษฐ์ (Al), IoT, และระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีอื่นๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตอบโจทย์ทุกความต้องการในธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า